Skip to content

Green color

Narrow screen resolution  Wide screen resolution  Increase font size  Decrease font size  Default font size  Skip to content Default color Pink color Green color Green color
Home arrow AV News arrow สัมภาษณ์ Tsubomi กับ 15 ปีในวงการ
สัมภาษณ์ Tsubomi กับ 15 ปีในวงการ
เธอคือนักแสดงสาวที่อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน และยังคงฉายา "ราชินีหน้าเด็ก" เอาไว้แม้วัยจะล่วงเลยเข้าเลขสามไปแล้ว วันนี้เราจะมาผังมุมมองของเธอหลังจากโลดแล่นในวงการมากว่า 15 ปี ว่ารู้สึกอย่างไรกับงานตรงนี้บ้างตลอดอาชีพดารแสดงเอวี

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมไปเจอบทสัมภาษณ์หนึ่งใน dmm มาเป็นบทสัมภาษณ์ซึโบมิในโอกาสครบรอบการเดบิวต์ครบรอบ 15 ปีในวงการเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ประเด็นหลักๆ ผลงานล่าสุดกับเอย์มิและละครเวทีเรื่อง “Mujihina Hikari” ที่จะถูกนำไปต่อยอดเป็นภาพยนตร์ เนื่องจากตนเองชอบซึโบมิมากๆ อยู่แล้ว เป็นนักแสดงคนแรกๆ เลยที่รู้จักและยังติดตามมาจนถึงปัจจุบัน เคยไปเจอตัวจริงด้วยและประทับใจเธอมากๆ เลยแปลคร่าวๆ มาให้อ่านกันครับ

**บทสัมภาษณ์นี้เน้นเรื่องมุมมองของเธอเกี่ยวกับการแสดงและภาพยนตร์เป็นหลัก**


สัมภาษณ์ Tsubomi 15 ปีในวงการ เจ้าของฉายา “ราชินีหน้าเด็ก”




― โอกาสครบ 15 ปีที่เดบิวต์ ช่วยบอกความรู้สึกอะไรหน่อยสิครับ?
ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยค่ะ พอเวลาผ่านไปก็รู้สึกเหมือนเวลามันเวียนมาถึงเท่านั้นเอง
 
― ทุกวันนี้มีผลงานเฉลี่ยนเดือนละ 2 เรื่องใช่ไหมครับ??
ใช่ค่ะ ถ้าเทียบกับตอนที่เพิ่งเริ่มถ่ายนั้นก็ดูสบายๆ กว่า  ตอนนี้มีผลงานมากมายจัดจำหน่าย รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างแฟนๆ นั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ฉันทำไลฟ์ทาง Nico Nico และรีวิวเกมส์ก่อนหน้าจะมีโคโรนาด้วยซ้ำ แต่พอมีโคโรนาก็ทำบ่อยขึ้น



ผลงานสตรีมเกมของซึโบมิ youtu.be/j59c0y6cu1M


― ความรู้สึกที่ระยะห่างนั้นแคบลงเพราะรู้สึกข้างใน?
สังเกตจากอีเวนต์เลยค่ะ แฟนๆ จะเขินอายและไม่ค่อยมีโอกาสได้ฟังความรู้สึกเท่าไร แต่ถ้าจากโซเชียลล่ะก็ แฟนๆ จะสามารถบอกฉากและประเด็นที่ทำให้ประทับใจได้เลย  ฉันดีใจนะที่ได้รับรู้ความรู้สึกทันทีหลังจากมีผลงานใหม่ออกมา

― จะว่าไป ช่วงนี้เป็นอย่างไรเหรอ?
ช่วงนี้แฟนๆ มักบอกว่า “ชอบ VR” “จะซื้ออีกนะ” ตอนที่ถ่ายทำนั้นดูเหมือนนักแสดงชายจะเหงาๆ หน่อยเพราะไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเป็นว่าดีใจเพราะแฟนๆ รู้สึกเหมือนเป็นนักแสดงเอง
 
― มีอะไรต้องใส่ใจบ้างเวลาถ่าย VR?
ก่อนอื่นหมดดูเหมือนว่าสิ่งสำคัญคือความรู้สึกของระยะห่างและความใกล้ชิด สายตานั้นจะส่งความรู้สึกอย่างชัดเจนมาก ดังนั้นคิดว่าจะออกห่างไม่ได้เลย
 
―ตอนที่ถ่ายทำ ต้องมโนภาพเอาเองหรือเปล่า?
ไม่ได้มโนอะไรเลยค่ะ มีแต่กล้องเท่านั้นที่อยู่ตรงหน้า ก็คิดว่าฉันเป็นแฟนของกล้องและรักกล้องตัวนั้น
 
― ช่วงหลังๆ มานี้มีงานไหนที่ยังประทับตรึงใจอยู่ไหมครับ?
น่าจะเป็นผลงานที่เป็นแสดงเป็นหมอมั๊งคะ? (รหัส MDVR-143) หลังจากถ่ายทำเสร็จก็ยังประทับใจอยู่ เหมือนกับว่าพูดกรอกหูอยู่ตลอดเวลา แต่กลับน่ารำคาญ ทำให้ง่วงนอนเลยค่ะ



MDVR-143


―ประทับใจเพราะได้เป็นหมอ?
เคยแสดงเป็นหมอมาบ้างแล้วค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นฉันมีภาพลักษณ์เป็นสาวอารมณ์สูงและเด็ดขาด ครั้งนี้ดูเหมือนว่าได้ผ่อนคลายจนกระทั่งนึกสงสัยว่า “ถ้าลองโมโหจะเป็นอะไรไหมนะ?”

― ดูเหมือนยากนะครับที่จะมีภาพลักษณ์สอดคล้องกับบทบาท?
ที่จริงผู้กำกับได้ให้ดูคลิปเกี่ยวกับหมอแล้ว เป็นวีดีโอของหมอธรรมดาๆ ที่ไม่ได้หื่นแต่อย่างไร  พอได้ชมแล้วก็รู้สึกว่า “ชอบจังเลย!!” ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะชอบบทบาทแบบนี้ ครั้งนี้จึงเป็นความน่าตื่นเต้นเลยล่ะค่ะ

― เรื่องล่าสุดในเดือนเมษายน ได้แสดงกับเอย์มิ ฟุคาดะเป็นครั้งแรก?
ไม่รู้จะพูดอะไรเกี่ยวกับเธอนะคะ แต่เธอใจดีและสดใสมาก ทำงานง่ายและได้เรียนรู้อะไรอีกด้วย


― ได้เรียนรู้อะไรเหรอครับ?
คิดว่าทักษะการถ่ายทอดอารมณ์ของเธอนั้นดีมากค่ะ

― เป็นคนคุยไม่เก่งสินะ?
ใช่เลยค่ะ ฉันไม่ค่อยพูดและก็ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ด้วย แต่บุคลิกของฟูคาดะซังนั้นชวนเป็นมิตร รู้สึกมีพลัง

― ไฮท์ไลท์ของงานนี้?
คิดว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ถ่ายกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วทั้งคู่ก็ไม่ยอมแพ้กันและกัน (555+) ฉันไม่รู้ว่าฟุคาดะซังนั้นรู้สึกเหมือนกันไหมแต่คิดว่าเราทั้งสองต่างก็แฮปปี้กับเซ็กส์ของกันและกัน

―บทนั้นตรงกันข้ามกับซึโบมิซังเลยสินะครับ
ไม่ได้คุยกันมาก่อนเลยค่ะ แต่ก็แสดงออกมาจากสัญชาติญาณในใจเลย

― สุดยอดเลยนะ!
พอได้แสดงร่วมกันมันก็สามัคคีกันเองโดยธรรมชาติค่ะ (555+) จะมีนักแสดงหญิงบางคนที่เวลามาแล้วรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่นี่ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย

― เรียกได้ว่าเข้าขากันเลยสินะ!
คิดว่าอย่างนั้นค่ะ !!

― จึงเป็นการร่วมงานกันของสองนักแสดงที่น่าตื่นเต้นสินะ!
เป็นคนที่เก่งมาก และเป็นเรื่องที่ดีเลยล่ะค่ะ



ซึโบมิชมว่าเอย์มิมีทักษะการถ่ายทอดอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม



― ดูเหมือนว่ามีกิจกรรมมากขึ้น ล่าสุดเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่อง “Mujihina Hikari” ไปได้เยอะแล้ว การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้างครับ?
“Mujihina Hikari” (แสงสดใสไร้เมตตา) เป็นการต่อเนื่องจากภาคละครเวทีซึ่งได้พูดคุยกับผู้กำกับมามากกว่า 2 ปี แต่ในครั้งนี้นั้นบทบาทจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย  จากเดิมที่ในละครเวทีบทบาทที่แสดงโดยคนคนเดียวจะแบ่งออกเป็น 3 บทแยกจากกันในเวอร์ชันภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบทบาทที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง จากมุมมองเล็กๆ ของคนไม่กี่คนบนเทวีกลายเป็นฉากภายนอกมากมายและขยายกว้างออกไป


(ผู้แปล: Mujihina Hikari เป็นละครเวทีเกี่ยวกับความไร้เมตตาของนักวิจัยสัตว์ในร่างมนุษย์ที่ถูกนำมาทดลองในห้องแล็บ ซึ่งการทดลองนั้นเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย แม้ภายนอกจะเป็นมนุษย์แต่ก็ถูกปฏิบัติเยี่ยงสัตว์)


― ฉากด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง?
นักแสดงเด็กน้อยทำให้ประทับใจอย่างมาก ถ้าเป็นงานผู้ใหญ่นี่อย่าหวังจะมีโอกาสแบบนี้เลยค่ะ (555+)

― บทแบบนี้หลุดมาไม่ได้เลย!
ก็ใช่น่ะสิคะ เป็นอะไรที่สดใหม่จริงๆ !

―ได้พูดคุยกับนักแสดงเด็กน้อยไหม?
ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไรค่ะ แต่ว่าน้องเขาสุภาพมาก ประมาณว่า “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคับ” ตลอดเลย (พูดเลียนแบบเสียงเด็ก)

― ได้พบอะไรใหม่ๆ จากการแสดงภาพยนตร์ครั้งนี้?
ครั้งนี้นั้นมีนักแสดงใหม่ร่วมงานด้วย 2 ท่าน และมีบทใหม่เสริมเข้าไป  ในละครเวทีเมื่อปีก่อนนั้น Noa Eikawa รับบทเป็นคู่ปรับกับฉัน แต่ครั้งนี้เป็นซากาเอะคาวะซังที่แสดงค่ะ[/color]



นักแสดงจาก Mujihina Hikari (無慈悲な光)


― มาถึงคำถามสำคัญเลย อะไรคือความแตกต่างระหว่างเอวีและภาพยนตร์ทั่วไป?
สำหรับเอวีนั้น เรื่องสำคัญเลยคือการสร้างอารมณ์ความรู้สึกและการด้นสด แต่ในกรณีของภาพยนตร์นั้นคุณต้องพูดบรรทัดต่อบรรทัดตามบทโทรทัศน์ที่แน่นอน

― ในภาพยนตร์ได้ด้นสดบ้างไหม?
 ไม่ค่อยได้ด้นสดเท่าไร แต่เมื่ออ่านบทและฝึกก่อนถ่ายทำแล้ว ฉันจะมีภาพที่พูดคร่าวๆ  อย่างไรก็ตามเมื่อเริ่มต้นถ่ายทำจะรู้สึกว่าภาพนั้นเข้ามาใกล้และแตกต่างจากกันโดยสิ้นเชิง
 
― เหมือนเป็นการสร้างขึ้นมาสินะ?
ว่าอย่างนั้นก็ได้ เวลาที่แสดงในเอวีที่มีเรื่องราวก็รู้สึกคล้ายๆ กันแต่ว่ามันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ
 
― เคยรู้สึกว่าตัวเองเก่งไหมหลังจากที่ได้เล่นหลายเวทีและภาพยนตร์หลายเรื่อง
 บทบาทการเป็นนักวิจัยในภาพยนตร์ “Mujihina Hikari” ดูง่ายกว่า  เคยเล่นละครเวทีในบทบาทช่างทำรองเท้าด้วยเหมือกัน แต่ ณ ตอนนั้นคือเหมือนเป็นบทบาทของนักสร้างอารมณ์…

― แสดงว่ามีความแตกต่างจากบุคลิกของตัวเอง…
ถูกต้องเลยค่ะ! อันที่จริงแล้วเป็นบทบาทที่สดใสมาก แต่ต้องแสดงออกมาทั้งๆ ที่ในใจร้องไห้อยู่ก็มี (555+)

― ไม่คิดว่าซึโบมิจังต้องสร้างอารมณ์ด้วย จะว่าไปมีความผิดหวังหรือสะท้อนมุมมองอะไรจากภาพยนตร์บ้างไหม?
มีค่ะ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างซ้อมและการถ่ายทำ แม้กระทั่งบทของตัวละครก็เปลี่ยนไปซึ่งก็ไม่อาจหวังว่านักแสดงทุกคนต้องอยากจะทำเช่นนี้ ฯลฯ

― ไฮไลท์ของภาพยนตร์?
ขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะชอบตัวละครใด ผู้ชมสามารถมีมุมมองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ได้ อยากให้มองความหลากหลายในจุดนี้ด้วย คุณ ก กับ ข อาจจะมองอย่างหนึ่ง แต่คุณ ค อาจจะไม่รู้สึกอย่างนั้น  เป็นภาพยนตร์ที่สนุกได้ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ตาม

―ได้รับคำแนะนำอะไรจากผู้กำกับบ้างไหม??
ไม่มีเลยค่ะ จะว่าไปฉันเป็นคนที่ต้องการคำแนะนำมากๆ ดังนั้นจึงแสดงด้วยความกังวลใจสุดๆ



ภาพจากการถ่ายทำภาพยนตร์ Hujihina Hikari


― เป็นพวกจริงจังกับชีวิตสินะ แล้วกับการแสดงเอวีก็ต้องการคำแนะนำด้วยหรือเปล่า?
ด้วยสิคะ จะง่ายกว่ามากถ้าผู้กำกับบอกให้รู้ว่าอยากให้ทำอะไร

― แต่ในเอวีไม่มีบทชัดเจนนี่นา มีแค่แนวทางคร่าวๆ เท่านั้น เวลาถ่ายทำมีปัญหาบ้างไหม?
อืม… ในตอนถ่ายทำก็จะถามผู้กำกับก่อนเริ่มอยู่แล้ว แล้วก็มาพูดคุยกันต่อเมื่อถ่ายทำฉากแรกจบ มันอาจจะช้าไปหน่อยแต่ก็อาจจะเป็นประโยชน์ในฉากต่อไปก็ได้นะ (555+)

― เมื่อก่อนนี้ถ่ายทำอะไรไม่ได้ดังใจก็จะเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ใช่เลยค่ะ แต่ตอนนี้ฉันสามารถพูดคุยกับผู้กำกับและแก้ปัญหาเป็นจุดๆ ได้แล้ว แต่สมัยก่อนนี่กังวลมากเลย  จะว่าไปตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย!

― แต่บางทีก็เขียนระบายลงในโซเชียลบ้างนี่นา?
ก็จริงนะ หนทางอีกยาวไกลสินะ ฮ่าๆๆๆ





ซึโบมิ (Tsubomi)
เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 1987 ที่ จ.ยามากุจิ เข้าสู่วงการเอวีเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2006 ในรหัส ONED-045

ปัจจุบันเธอยังเป็นนักแสดงเอวีที่มีชื่อเสียง เจ้าของฉายา "เจ้าแม่โลลิ" เธอยังมีช่องยูทูปของตนเองไว้สตรีมเกมและพบปะกับแฟนๆ มีทวิตเตอร์ไว้อัพเดตข่าวสารและเขียนบล็อคเป็นประจำสำหรับแฟนๆ ของเธอ

Twitter: @tsubomi1225
ช่องสตรีมเกมบน Youtube: つぼみの何かする放送YouTube部屋 やらされてませ〜ん
Blog: blog.livedoor.jp/sunriseagency/

Credit: ท่าน Momomiru

Next >